อิสราเอลประกาศโจมตีทางอากาศ สหรัฐขออิสราเอลชะลอบุกกาซ่า

เมื่อคืนที่ผ่านมา ในระหว่างที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กำลังเดินทางออกจากโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองเรโฮโบธของรัฐเดลาแวร์ ผู้สื่อข่าวได้ตะโกนถามผู้นำสหรัฐก่อนที่จะขึ้นรถว่า “ท่านประธานาธิบดีกำลังพยายามโน้มน้าวให้อิสราเอลชะลอการบุกฉนวนกาซาใช่หรือไม่”

ไบเดนไม่ตอบคำถามนี้ตรงๆ เพียงแต่พูดว่า กำลังจะคุยกับทางอิสราเอล ส่วนอีกคำถามที่นักข่าวถามคือ มีความคืบหน้าเรื่องตัวประกันที่เหลือหรือไม่ แต่ผู้นำสหรัฐไม่ตอบประเด็นนี้ก่อนจะขึ้นรถไป

ชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์ฟ้องรบ.ไบเดน ล้มเหลวอพยพพลเมืองในกาซา

กองกำลังติดอาวุธ ขู่โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ หากแทรกแซงฉนวนกาซา คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้

กระแสข่าวที่ว่า สหรัฐกำลังพยายามโน้มน้าวให้อิสราเองชะลอการบุกฉนวนซ่าเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้กลุ่มหลังฮามาสยอมปล่อยตัวประกันสหรัฐฯ 2 คนออกมา นั่นก็คือ ‘จูดิธ รานาน’ และ ‘นาตาลี รานาน’ ซึ่งเป็นลูกสาว โดยทั้งสองเป็นชาวเมืองชิคาโก เดินทางมาอิสราเอลเพื่อเยี่ยมครอบครัวก่อนจะถูกฮามาสลักพาตัวไปจากนิคมเกษตรนาฮาล ฮอซ ทางตอนใต้ของอิสราเอลใกล้กับเขตแดนกาซา ทั้งคู่คือหนึ่งในตัวประกันประมาณ 200 คนที่ถูกฮามาสจับตัวไป

ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมทั้งสองแม่ลูกถึงถูกเลือกเป็นตัวประกันรายแรกที่ได้รับการปล่อยตัว โดยโฆษกของปีกกองทัพของฮามาสบอกเพียงแค่ว่า เพื่อตอบสนองต่อการเป็นคนกลางช่วยเหลือของกาตาร์

หลังจากนั้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามกดดันให้อิสราเอลเลื่อนปฏิบัติการทางการทหารขนาดใหญ่ในฉนวนกาซาออกไปก่อน เพราะกำลังมีการเจรจาปล่อยตัวประกันเพิ่มเติม โดยการเจรจากับฮามาสผ่านกาตาร์นั้นมีความเปราะบางและอาจล้มเหลวได้

ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการออกมาจากทางอิสราเอลว่า ถูกสหรัฐฯร้องขอให้ชะลอการบุกฉนวนกาซาตามที่มีรายงานหรือไม่ นอกเหนือจากแรงกดดันจากสหรัฐฯซึ่งมีพลเมืองของตนอีกประมาณ 10 คนที่ยังอยู่ในการควบคุมของฮามาส ภายในอิสราเอลเองก็มีแรงกดดันภายใน โดยแรงกดดันนี้มาจากครอบครัวตัวประกันชาวอิสราเอลที่ออกมาเรียกร้องและกดดันรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันเป็นอันดับแรก

เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ (21 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ครอบครัวของชาวอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันออกมาชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภาในเยรูซาเลมตะวันตก ทั้งหมดถือภาพถ่ายของสมาชิกครอบครัวที่ถูกจับตัวไป ภาพถ่ายเหล่านั้นมีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ พร้อมตะโกนข้อความว่า “ปล่อยพวกเขาออกมาเดี๋ยวนี้” บางคนถือป้ายที่มีข้อความว่า “ 15 วันแล้ว แต่เนทันยาฮูไม่สนใจ” บางป้ายปรากฎข้อความ “ หยุดยิง พาพวกเขากลับบ้าน”

มีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา อาบู โอไบดา โฆษกกองพลน้อยอัล-กอสซัม ของกลุ่มฮามาสระบุว่า ได้แจ้งไปยังกาตาร์ ซึ่งเป็นตัวกลางในการเจรจาตัวประกันว่า ฮามาสวางแผนที่จะปล่อย “นูริท ยิตชัก” (Nourit Yitshaq) และ “ยอเคเฟด ลิฟชิทซ์” (Yokhefed Lifshitz) ตัวประกันชาวอิสราเอล 2 คน ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ตอบโต้คำกล่าวอ้างของฮามาส เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อที่โกหกหลอกลวง และประกาศว่า รัฐบาลของเขาจะทำทุกทางเพียงนำตัวประกันทุกคนกลับบ้าน แรงกดดันทางจากสหรัฐฯ และแรงกดดันจากในประเทศที่กังวลต่อความปลอดภัยของตัวประกันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปฏิบัติการทางการทหารครั้งใหญ่ต่อฉนวนกาซายังไม่เกิดขึ้น รถถังหลายร้อยคันที่ถูกระดมมาประจำการที่บริเวณทางใต้ของอิสราเอลที่ติดกับฉนวนกาซาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และวันนี้ยังคงอยู่ที่จุดเดิม เมื่อคืนที่ผ่านมา IDF มีการปล่อยภาพวีดีโอของการซ้อมเคลื่อนพลและการรบด้วยกระสุนจริงออกมาเพื่อส่งสัญญาณความพร้อมปฏิบัติการทางการทหารครั้งใหญ่ ในวันที่การบุกภาคพื้นดินยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่กองทัพอิสราเอลประกาศว่าจะทำต่อเนื่องคือจะโจมตีทางอากาศให้หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม โดยประกาศให้พลเรือนที่อยู่ทางตอนเหนือฉนวนกาซารีบอพยพ

พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกของกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลหรือ IDF ได้ประกาศให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเร่งอพยพลงใต้ เนื่องจากนับแต่วันนี้เป็นต้นไป ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซาจะถูกยกระดับให้หนักและรุนแรงขึ้น โดยโฆษก IDF ระบุว่า แผนการโจมตีทางอากาศให้หนักขึ้นก็เพื่อทำลายฐานของฮามาสที่ซุกซ่อนอยู่ตามตึกหรืออาคารต่างๆ เพื่ออันตรายและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับกองกำลังอิสราเอลในขั้นตอนต่อไปของสงคราม นั่นก็คือ การบุกภาคพื้นดิน

การโจมตีทางอากาศที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมส่งผลให้มีคนในฉนวนกาซาเสียชีวิตแล้วกว่า 4,385 ราย หลายแสนต้องเป็นผู้พลัดถิ่น โดยผู้พลัดถิ่นเหล่านี้คือคนที่เดินทางออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือไปอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาตามคำประกาศของอิสราเอล

ท่ามกลางสงครามที่ยังไม่ลดระดับความรุนแรง เมื่อวานนี้ อียิปต์ซึ่งเป็นประเทศมีเขตแดนติดกับฉนวนกาซาได้จัดการประชุมด่วนขึ้นที่กรุงไคโร คนที่เข้าร่วมประชุมมีตั้งแต่เลขาธิการยูเอ็น ผู้แทนจากอียู และอีกหลายประเทศอาหรับและยุโรป

ภาพการประชุมสันติภาพที่กรุงไคโรของอียิปต์เพื่อหาทางลดความตึงเครียดสงครามอิสราเอล-ฮามาส วาระที่หารือกันมีทั้งเรื่องเร่งด่วนและเรื่องในอนาคต เรื่องเร่งด่วนคือ วิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซาที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ เนื่องจากถูกปิดล้อมและถูกโจมตีทางอากาศจากอิสราเอล คนกว่า 2.3 ล้านคนกำลังขาดน้ำ อาหาร ยารักษาโรคและพลังงงาน เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ที่อียิปต์กับอิสราเอลตกลงกันได้ที่ให้มีการเปิดด่านราฟาห์ ซึ่งขณะนี้เป็นช่องทางเดียวที่เข้าฉนวนกาซาได้ในขณะนี้ เพื่อให้รถขนของบรรเทาทุกข์เข้าไป

อย่างไรก็ตาม รถที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านด่านมีเพียง 20 คัน ส่วนของที่ขนเข้าไปก็ไม่มีเชื้อเพลิงที่จำเป็นมากสำหรับใช้เดินเครื่องปั่นไฟสำหรับโรงพยาบาล ตัวแทนหลายชาติในที่ประชุมได้มีการเรียกร้องให้ฮามาสและอิสราเอลประกาศหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซาก่อนที่จะสถานการณ์จะเลวร้ายลงจนสายเกินแก้

นอกเหนือจากวาระเร่งด่วนในเรื่องของการให้หยุดยิงเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปได้แล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่มีการหาถกเถียงหารือกันคือ อนาคตของฉนวนกาซาและชาวปาเลสไตน์ต่อจากนี้

เป็นที่น่าสังเกตุว่า หลายชาติเช่น เยอรมนี ได้มีการเสนอให้รื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพที่อยู่บนพื้นฐานของแนวคิด 2 รัฐหรือ Two State Solution ซึ่งเป็นแนวคิดการการสนับสนุนให้เกิดรัฐปาเลสไตน์ แนวคิดดังกล่าวถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เคยออกมาประกาศสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวด้วย